การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด

  • เมื่อได้จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไว้แล้ว
  • ผู้เริ่มก่อการจัดให้มีการจองซื้อหุ้นทั้งหมด
  • ผู้เริ่มก่อการออกหนังสือนัดประชุมจัดตั้งบริษัท
  • ประชุมตั้งบริษัท
  • คณะกรรมการเรียกให้ชำระค่าหุ้น
  • ตามที่ที่ประชุมจัดตั้งบริษัทกำหนด
  • ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าหุ้นละ 25%
  • จัดทำคำขอจดทะเบียน/ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
  • นายทะเบียนรับจดทะเบียน
เมื่อจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว ก็ให้ดำเนินการดังนี้

1. ผู้เริ่มก่อการจัดให้มีการจองซื้อหุ้นทั้งหมด
2. เมื่อมีการจองซื้อหุ้นหมดแล้ว ก็ให้ผู้เริ่มก่อการออกหนังสือนัดประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเพื่อประชุมจัดตั้งบริษัท การออกหนังสือนัดประชุมจะต้องห่างจากวันประชุมอย่างน้อย 7 วัน
3. จัดประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเพื่อจัดตั้งบริษัท
   3.1 องค์ประชุมจะต้องมีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทั้งหมดและนับจำนวนหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของหุ้นทั้งหมด (จะมอบฉันทะให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนก็ได้)
   3.2 วาระการประชุม
     (1) ทำความตกลงตั้งข้อบังคับของบริษัท
     (2) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้เริ่มก่อการได้ทำไว้ และค่าใช้จ่ายที่ผู้เริ่มก่อการต้องจ่ายในการเริ่มก่อตั้งบริษัท
     (3) กำหนดจำนวนเงินซึ่งจะให้แก่ผู้เริ่มก่อการ (ถ้ามี)
     (4) ในกรณีที่บริษัทจะออกหุ้นบุริมสิทธิ ให้กำหนดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิพร้อมทั้งกำหนดสภาพและบุริมสิทธิของหุ้นบุริมสิทธิว่ามีสภาพหรือสิทธิอย่างไร
     (5) ในกรณีที่บริษัทจะออกหุ้นเพื่อเป็นการตอบแทนการลงทุนด้วยทรัพย์สินหรือแรงงาน จะต้องกำหนดจำนวนหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิซึ่งออกให้เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มค่าแล้วหรือได้ใช้แต่บางส่วนเพราะได้ใช้ค่าหุ้นด้วยอย่างอื่นนอกจากตัวเงิน โดยจะต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจนทั้งในหนังสือนัดประชุมและมติที่ประชุม แรงงานที่จะนำมาตีราคาเป็นค่าหุ้นของบริษัทต้องเป็นแรงงานที่ได้กระทำไปแล้ว
     (6) การเรียกชำระค่าหุ้น
     (7) เลือกตั้งกรรมการและกำหนดอำนาจกรรมการ
     (8) เลือกผู้สอบบัญชีรับอนุญาตพร้อมทั้งกำหนดค่าสินจ้าง
การตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเพื่อตรวจสอบและรับรองงบการเงินต้องแต่งตั้งบุคคลธรรมดาเท่านั้น จะแต่งตั้งสำนักงานตรวจสอบบัญชีไม่ได้
4. ผู้เริ่มก่อการมอบหมายกิจการงานทั้งหมดให้แก่คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุม
5. คณะกรรมการเรียกเก็บค่าหุ้นจากผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น อย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลค่าหุ้น
6. เมื่อเก็บค่าหุ้นได้ครบแล้ว ให้กรรมการผู้มีอานาจจัดทำคำขอจดทะเบียนตั้งบริษัทแล้วยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียน
    การยื่นจดทะเบียนจะต้องให้กรรมการผู้มีอำนาจเป็นผู้ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนและต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ถ้าไม่จดทะเบียนภายในกำหนดเวลาดังกล่าวจะทำให้การประชุมตั้งบริษัทเสียไป หากต่อไปต้องการจดทะเบียนตั้งบริษัทก็ต้องดำเนินการจัดประชุมผู้จองซื้อหุ้นใหม่

ข้อมูลที่ต้องใช้ในการจัดตั้งบริษัทจำกัด

1. ข้อบังคับ (ถ้ามี)
2. จำนวนทุน (ค่าหุ้น) ที่เรียกชำระแล้ว อย่างน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน
3. ชื่อ ที่อยู่ อายุของกรรมการ
4. รายชื่อหรือจานวนกรรมการที่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัท
5. ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ / สาขา (ตั้งอยู่ ณ จังหวัดใด) พร้อมเลขรหัสประจำบ้านของที่ตั้งสำนักงาน, E-mail และหมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทหรือกรรมการ
6. ชื่อ เลขทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตพร้อมค่าตอบแทน
7. ชื่อ ที่อยู่ สัญชาติ และจำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละคน
8. ตราสำคัญ *ดูหลักเกณฑ์การกำหนดดวงตรา*

    บริษัทจะไม่จดทะเบียนตราสาคัญของบริษัทก็ได้ หากว่าอำนาจกรรมการไม่ได้กำหนดให้ต้องประทับตราสำคัญด้วย

เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด

1. คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1)
2. แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด
3. รายการจดทะเบียนจัดตั้ง (แบบ บอจ.3)
4. รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก.)
5. บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5)
6. สำเนาหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
7. สำเนารายงานการประชุมตั้งบริษัท
8. สำเนาข้อบังคับ ผนึกอากร 200 บาท (ถ้ามี)
9. หลักฐานการชำระค่าหุ้นที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือหุ้น
10. กรณีบริษัทจำกัดมีผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทจำกัดไม่ถึงร้อยละ 50 ของทุน จดทะเบียน หรือกรณีบริษัทจำกัดไม่มีคนต่างด้าวเป็นผู้ถือหุ้น แต่คนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ลงนามหรือร่วมลงนามผูกพันบริษัท ให้ส่งเอกสารหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยแต่ละรายประกอบคำขอจดทะเบียน โดยเอกสารดังกล่าวต้องแสดงจำนวนเงินที่สอดคล้องกับจานวนเงินที่นำมาลงหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย
11. แบบ สสช.1 จำนวน 1 ฉบับ
12. แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป
13. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการทุกคน *ดูหลักเกณฑ์เรื่องบัตรประจำตัว*
14. สำเนาหลักการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
*ดูหลักเกณฑ์การลงลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน*
15. หนังสือมอบอานาจ (กรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง ก็มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจและผนึกอากรแสตมป์ด้วย)

    สำเนาเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนทุกฉบับ ต้องให้ผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนรับรองความถูกต้อง ยกเว้นสำเนาบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง

ค่าธรรมเนียม

1. คิดตามทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
     ทุกจำนวนเงินไม่เกิน 100,000 บาท แห่งทุนที่กำหนดไว้ 500 บาท
     เศษของ 100,000 บาท ให้คิดเป็น 100,000 บาท
     ทั้งนี้ รวมกันไม่ให้เกิน 250,000 บาท
2. หนังสือรับรองฉบับละ 200 บาท
3. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนฉบับละ 100 บาท
4. รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียนหน้าละ 50 บาท

สถานที่จดทะเบียน

1. สานักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นจดทะเบียนได้ที่ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 4 ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทั้ง 6 เขต
intro.jpg

จดทะเบียน

  • จดทะเบียนบริษัทจำกัด
  • จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด
  • จดทะเบียนใบทะเบียนพาณิชย์
  • จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • จดทะเบียนมูลนิธิ
  • จดทะเบียนสมาคม

จดเปลี่ยนแปลงแก้ไข รายการสำคัญ รายการเอกสารของบริษัทและห้างหุ้นส่วน

  • จดแจ้งย้ายที่ตั้งบริษัท
  • จดเพิ่มสาขา
  • จดเปลี่ยนตราสำคัญ
  • จดเปลี่ยนชื่อบริษัท
  • จดเพิ่ม-ลดกรรมการ เข้า-ออก
  • จดเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท
  • จดแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์

จดทะเบียนเกี่ยวกับสินค้า

  • จดเครื่องหมายการค้า
  • จดสิทธิบัตร
  • จดลิขสิทธิ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ คุณวาสนา
02-107-3057 Ext. 78200
092-276-4805